20.00 น. หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 7 แถว N เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์ (TK)

23.05 น. บินสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 69

05.20 น. ถึง สนามบินอิสตันบูล เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

07.00 น. บินสู่ เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบิน TK 1661

09.10 น. ถึง สนามบินฮัมบูร์ก ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร 

เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองฮัมบูร์ก (Hamburg) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานและเป็นเมืองท่าการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรป เช่น ที่ว่าการเมืองฮัมบูร์ก (Hamburg City Hall) อาคารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1897 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอเรอเนซองส์ โดดเด่นด้วยหอคอยสูง 112 เมตร ด้านหน้าเป็นลานโล่งซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ ของเมือง, Hamburg State Opera ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1678 ด้วยไม้แต่ปิดตัวลงในปี ค.ศ. 1738 เพราะขาดทุน มีการทุบ สร้างใหม่ ปรับปรุงหลายต่อหลายครั้งจนล่าสุดในปี ค.ศ. 2000

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร 

เข้าชม โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St. Michael’s church) โบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองฮัมบูร์ก สามารถจุคนได้ถึง 2,500 ที่นั่ง เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเยอรมนี สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์ โดดเด่นด้วยยอดสัมฤทธิ์ทรงบาโรกที่มีความสูงถึง 132 เมตร ผ่านการบูรณะซ่อมแซมมาแล้วหลายครั้ง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮัมบูร์ก เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองฮัมบูร์ก เช่น ย่านซังห์เพาลี (St. Pauli) ย่านเก่าแก่ของเมือง ซึ่งในปัจจุบันรู้จักกันในชื่อย่านแสงสีแดง (Red-Light District)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

ที่พัก Courtyard by Marriott Hamburg City 4* หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก 

ช้อปปิ้ง Designer Outlet Neumünster ที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกให้เลือกสรร เช่น Michael Kor, Nike, Armani, Coach, Crocs, Diesel, Guess ฯลฯ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย เดินทางสู่ ท่าเรือฮัมบูร์ก ท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหภาพยุโรปและใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก เช็กอินขึ้นเรือสำราญ COSTA FAVOLOSA

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

20.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือเมืองฮัมบูร์ก ... มุ่งหน้าสู่ เมืองเบอร์เกน (นอร์เวย์)

ที่พัก COSTA FAVOLOSA ***เรือสำราญจะมีการซ้อมขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย (Emergency Drill) ผู้โดยสารทุกท่านต้องเข้าร่วมกิจกรรมนี้ *** (ขึ้นอยู่กับการจัดการของเรือ)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

09.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองเบอร์เกน (Bergen) เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองเบอร์เกน เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนอร์เวย์ ล้อมรอบด้วยหุบเขา เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น หมู่บ้านชาวประมง Bryggen อาคารเก่าแก่สไตล์ Hanseatic ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีถึงแม้จะผ่านเหตุการณ์ไฟไหม้หลายครั้ง แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมบูรณะให้เหมือนเดิม เหล่าอาคารไม้ที่ตั้งเรียงรายกันที่ท่าเรือมีอายุกว่า 300 ปีพร้อมกับประวัติศาสตร์ทางการค้าที่ยาวนาน UNESCO จึงขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979 

นั่งรถรางขึ้นสู่ยอดเขาฟลอเยน (Fløyen) ยอดเขากลางใจเมืองเบอร์เกน ด้วยความสูง 320 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้กลายเป็นจุดชมวิวเมืองเบอร์เกนแบบพาโนรามาได้อย่างดี นอกจากจะเป็นจุดชมวิวแล้วยังมีเส้นทางธรรมชาติให้ได้ศึกษาพันธุ์ไม้ดอกไม้ รวมถึงร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองเบอร์เกน เข้าชม Hanseatic Museum พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตและการทำงานของพ่อค้าชาวฮันเซ-อาติกที่ล่องเรือมาจากตอนเหนือของเยอรมนี เพื่อมาแลกเปลี่ยนธัญพืชและปลากับตอนเหนือของนอร์เวย์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ทำให้เบอร์แกนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของยุโรปตอนเหนือมาหลายศตวรรษ เดินทางกลับสู่ท่าเรือเพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองเลกเนส (นอร์เวย์)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองเลกเนส (Leknes) เมืองเล็กๆ กลางหมู่เกาะโลโฟเตน บนเกาะเวสต์โวเกยยา (Vestvågøya) ห่างจากเมืองสโลเวอร์ (Svolvær) ไปทางตะวันตกประมาณ 68 กม. เป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองของโลโฟเตนที่ไม่ขึ้นอยู่กับการประมงและไม่มีศูนย์กลางเมืองริมทะเล เลกเนสมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ไม่หลงเหลือสถาปัตยกรรมไม้แบบดั้งเดิมเหมือนกับเมืองอื่นๆ ส่วนใหญ่ในโลโฟเตน แต่ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงามทั้งภูเขา ยอดเขา หน้าผา และหาดทราย ทำให้เลกเนสเป็นเมืองหนึ่งที่งดงามไม่แพ้เมืองอื่น

เดินทางสู่ หมู่บ้านออ (Å Village) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ Moskenes อยู่ ณ จุดสิ้นสุดของถนน E10 หรือที่รู้จักกันในชื่อว่าถนน King Olav V ที่ทอดยาวมาจากเมืองทางตอนเหนือของสวีเดนเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ในนอร์เวย์จนถึงหมู่เกาะโลโฟเตน 

เข้าชม พิพิธภัณฑ์ชาวประมงหมู่บ้านออ (Norwegian Fishing Village Museum Å) พิพิธภัณฑ์เปิด (Open Air) ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงในหมู่บ้านนี้ในช่วงปี ค.ศ. 1840-1960 บอกเล่าเรื่องราวการจับปลาของชาวเกาะโลโฟเตนที่มีมากว่า 250 ปี ภายในบริเวณเดียวกันนี้ยังประกอบไปด้วย โรงงานเบเกอรี่ที่ใช้เตาหินโบราณตั้งแต่ปี ค.ศ. 1878 เรือบ้าน (Boathouse) เรือไม้ดั้งเดิมที่ชาวนอร์วีเจียนใช้ในการประมง โรบู (Rorbu) บ้านชาวประมงสีแดงสดที่เรียงรายอยู่ริมน้ำ ร้านขายของชำ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1843 ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นแผนกต้อนรับของพิพิธภัณฑ์และยังมีสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศของหมู่บ้านเล็กๆ ของโลโฟเตน เช่น หมู่บ้านรีน (Reine Village) หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ถือเป็นหมู่บ้านที่เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของโลโฟเตน, สะพานฮัมนอย (Hamnøy Bridge) จุดถ่ายภาพยอดนิยมของตากล้องทั่วโลก ถือเป็นอีกมุมหนึ่งที่ดีที่สุดของการดูแสงเหนือบนเกาะโลโฟเตน 

เข้าชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไวกิงโลโฟตร์ (Lofotr Viking Village) ที่สร้างขึ้นบริเวณรอบๆ แหล่งที่ขุดพบบ้านของหัวหน้าเผ่าชาวไวกิง ในปี ค.ศ. 1983 นักโบราณคดีได้ขุดพบอาคารขนาดยาวที่หมู่บ้านบอร์ก (Borg) ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 500 และถูกทิ้งร้างไปช่วงประมาณปี ค.ศ. 950 ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ได้รับการขุดและสร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิมคือ อาคารยาวประมาณ 80 เมตรซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบ้านของหัวหน้าเผ่าไวกิง ในบริเวณเดียวกันนี้ยังมี โรงตีเหล็ก เรือไวกิงจำลองขนาดจริง และอื่นๆ ให้ได้ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตของชาวไวกิงโบราณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงพิพิธภัณฑ์แห่งปี ค.ศ. 2011 ของประเทศนอร์เวย์ และรางวัลพิพิธภัณฑ์ยุโรปแห่งปี ค.ศ. 2013 เดินทางกลับสู่ท่าเรือเพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองทรุมเซอ (นอร์เวย์)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

09.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองทรุมเซอ (Tromso / Tromsø) เมืองที่โอบล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีธรรมชาติอันงดงาม เป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยที่อยู่เหนือสุดของโลกอย่าง The University of Tromso ที่โดดเด่นในด้านการวิจัยแสงเหนือ ดาราศาสตร์ รวมถึงการประมง จนเมืองทรุมเซอได้ชื่อว่า “เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ” และยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวซามี่ (Sami) ชาวพื้นเมืองเก่าแก่แห่งสแกนดิเนเวียที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมยาวนานกว่า 5,000 ปี เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองทรุมเซอ เช่น Tromso Cathedral โบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ไม้สีเหลืองสไตล์โกธิก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1861 ออกแบบโดยสถาปนิกคริสเตียน ไฮน์ริช โกรซ สามารถรองรับผู้ศรัทธาได้ถึง 600 ที่นั่ง อาจถือได้ว่าโบสถ์แห่งนี้คือโบสถ์ที่อยู่เหนือสุดของโลกเลยก็ว่าได้ 

เข้าชม มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) มหาวิหารรูปทรงแปลกตาที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1965 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของ Iceburgs พร้อมกับการตกแต่งด้วยกระจกสีที่บริเวณด้านหน้าของโบสถ์ที่รอรับแสงในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นส่องผ่านกระจกเข้าไปภายในโบสถ์เกิดความสวยงามอย่างมาก และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถชมความสวยงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้อย่างชัดเจน

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองทรุมเซอ ขึ้น เคเบิลคาร์ (Fjellheisen Cable car) สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) พบกับทิวทัศน์ตระการตาของเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงในมุม 360 องศา 

เข้าชม Polaria Museum สัมผัสธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยบนเขตอาร์กติก ที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงนำเสนองานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเขตอาร์กติก โดยความร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์จาก Fram-High North Research Center for Climate and Environment ที่สะท้อนถึงความท้าทายทางธรรมชาติและสภาพอากาศที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ เดินทางกลับสู่ท่าเรือเพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองฮอนนิงสแวก (นอร์เวย์)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองฮอนนิงสแวก (Honningsvag / Honningsvåg) ดินแดนที่อยู่ทางเหนือสุดของโลก ขึ้นชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun)” เป็นที่อยู่อาศัยของชาวแลปแลนด์มาอย่างยาวนาน

เดินทางสู่ นอร์ธเคป (North Cape / Nordkapp) หรือแหลมเหนือ (ระยะทางประมาณ 34 กม.) บริเวณปลายเกาะมาเกโรยา มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน 307 เมตรจากระดับน้ำทะเล ได้รับการตั้งชื่อจากนักสำรวจชาวอังกฤษในปี ค.ศ. 1533 ในขณะที่เขาผ่านจุดนี้เพื่อเดินทางไปค้นหาเส้นทางเดินเรือทางตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นนอร์ธเคปก็มีผู้มาเยือนเป็นครั้งคราว ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันได้แก่ พระเจ้าออสกาที่ 2 (King Oscar II) แห่งนอร์เวย์ ในปี ค.ศ. 1873 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1907

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร 

เข้าชม ศูนย์นิทรรศการนอร์ธเคป (North Cape Hall) ซึ่งตั้งอยู่ที่พิกัด 71°10'21 บนหน้าผาสูง 307 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมื่อนึกถึงนอร์ธเคปมักจะนึกถึงอนุสาวรีย์ลูกโลกที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1978 เป็นสถานที่ที่ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun) ที่ส่องแสงสว่างแม้ยามราตรีพร้อมดื่มด่ำแชมเปญเคล้าคาเวียร์เฉลิมฉลองที่ได้มาเยือนดินแดนเหนือสุดแห่งนี้พร้อมรับประกาศนียบัตร นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ไทย-นอร์เวย์ (North Cape Museum) ที่บอกเล่าถึงการเสด็จประพาสนอร์ธเคปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และยังมีอักษรพระนามย่อ จปร. ที่จารึกบนก้อนหินที่ได้รับการรักษาอย่างดีจากรัฐบาลนอร์เวย์ เดินทางกลับสู่ท่าเรือเพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ

18.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองคริสเตียนซานด์ (นอร์เวย์)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

12.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองคริสเตียนซานด์ (Kristiansand) เมืองหลวงของนอร์เวย์ตอนใต้ที่มีทั้งชายหาดและต้นปาล์ม เป็นเมืองท่าทางทะเลที่ปลอดน้ำแข็งในฤดูหนาว โดดเด่นในอุตสาหกรรมต่อเรือและการทำประมง

เข้าชม Kristiansand Museum พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของนอร์เวย์ ประกอบด้วยส่วนแสดงกลางแจ้ง รวมถึงอาคารเก่าแก่กว่า 500 ปี โรงเรียน โรงนา คอกม้า ที่แสดงถึงวิถีชีวิตในสมัยก่อนบอกเล่าสู่รุ่นปัจจุบัน 

เข้าชม Christiansholm Fortress ป้อมปราการที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1672 เพื่อป้องกันเมือง ป้อมปราการนี้อยู่ในการต่อสู้กับกองเรือรบอังกฤษที่นำโดย HMS Spencer ในปี ค.ศ. 1807 ระหว่างสงครามนโปเลียนซึ่งได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากและถูกทิ้งร้างในเวลาต่อมา แต่ได้รับการบูรณะจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองอย่างเช่นปัจจุบัน เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองคริสเตียนซานด์ เช่น ตลาดปลา ที่คึกคักของเมือง มีอาหารทะเลให้เลือกมากมาย รวมถึงร้านอาหารที่คอยให้บริการ, ย่านเมืองเก่า Posebyen ชุมชนเล็กๆ ที่มาพร้อมกับบ้านไม้สีขาวเล็กๆ น่ารักที่มีเสน่ห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1892 

เข้าชม Kristiansand Cathedral มหาวิหารตั้งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกที่จัตุรัสกลางเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1884 เป็นหนึ่งในมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ เดินทางกลับสู่ท่าเรือเพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

21.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองเอลซุนด์ (นอร์เวย์)

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

07.30 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองเอลซุนด์ (Alesund) ตั้งอยู่บนเกาะแก่งที่ห่างไกลของนอร์เวย์ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย บ้านเรือนที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ต-นูโว พร้อมสีสันสดใสจนได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางศิลปะแบบอาร์ต-นูโวของยุโรปเลยทีเดียว เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองเอลซุนด์ เช่น จุดชมวิว Aksla บนความสูงบันได 418 ขั้นที่ให้เราได้ออกกำลังกันก่อนที่จะได้ดื่มด่ำความสวยงามของเมืองเอลซุนด์ได้อย่างเต็มตา 

เช้าชม Art Nouveau Centre พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เล่าเรื่องราวผ่านการตกแต่งภายใน จากเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1904 ที่ทำให้เมืองกลายเป็นเถ้าถ่าน แต่ได้มีการสร้างขึ้นใหม่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ต-นูโว จนมีชื่อเสียงในปัจจุบัน

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย เดินเล่นชมบรรยากาศของ เมืองเอลซุนด์ ที่อาคารบ้านเรือนต่างๆ ตกแต่งในสไตส์อาร์ต-นูโว แต่ก็แตกต่างกันในรายละเอียดและสีสันต่างๆ เดินทางกลับสู่ท่าเรือเพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ

17.30 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองวิก (นอร์เวย์)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ หมู่บ้านวิก (Vik) หมู่บ้านฟยอร์ดที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมบ้านเล็กๆ สีสันสดใส ตั้งอยู่บนชายฝั่งตอนใต้ของ Sognefjord หนึ่งในฟยอร์ดที่ยาวที่สุดในโลก มาพร้อมกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ยุคนอกรีตจนถึงยุคไวกิ้ง

เดินทางสู่ หมู่บ้านแวงส์เนส (Vangsnes) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ Sognefjord เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์กษัตริย์ Fridtjof แห่ง Ringerike และ Sogn ซึ่งออกแบบโดย Kaiser Wilhelm II แห่งเยอรมนี และแกะสลักโดยช่างแกะสลักชาวเยอรมัน Max Unger และขนย้ายมาตั้งที่หมู่บ้านแห่งนี้โดยแบ่งชิ้นส่วนออกเป็น 15 ส่วน ประกอบและตั้งแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1913

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร

บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศของ หมู่บ้านวิก เช่น Hopperstad Stave Church โบสถ์ไม้โบราณที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1130 โบสถ์ไม่ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังสามารถอนุรักษ์ไว้ได้ ได้รับการฟื้นฟูในช่วงปี ค.ศ. 1880 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ เดินทางกลับสู่ท่าเรือเพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ

17.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองฮัมบูร์ก (นอร์เวย์)

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ที่พัก COSTA FAVOLOSA

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือกิจกรรมต่างๆ ตามประกาศของเรือสำราญ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ ที่พัก COSTA FAVOLOSA

หมายเหตุ: ก่อนเรือกลับเทียบท่าใน เช้าวันถัดไป จะต้องดำเนินการเตรียมตัวเพื่อเช็กเอาต์ออกจากเรือดังนี้

1. จัดกระเป๋าใบเล็ก สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่ต้องใช้ในช่วงกลางคืนและเช้าวันถัดไป

2. จัดกระเป๋าใบใหญ่และวางไว้หน้าห้อง พร้อมผูกป้ายกระเป๋าสีต่างๆ ตามที่เรือกำหนด เจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไปในช่วงกลางดึก (ป้ายกระเป๋าสีต่างๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ)

3. ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายจะส่งให้ตรวจเช็กความถูกต้องก่อน (ชาร์จผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ตอนเช็กอินในวันแรกของการขึ้นเรือโดยอัตโนมัติ หรือในกรณีที่ไม่มีบัตรเครดิต สามารถชำระด้วยเงินสดได้ โดยทางเรือจะเรียกเก็บมัดจำไว้ล่วงหน้าในวันแรกของการขึ้นเรือ ตามข้อกำหนดของเรือ)

06.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองฮัมบูร์ก (เยอรมนี)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ เช็กเอาต์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ

เที่ยวชมบรรยากาศของ เมืองฮัมบูร์ก เช่น โกดังชไปเคอชตัท (Speicherstadt) อาคารสินค้าที่สร้างขึ้นจากอิฐแดง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO แห่งแรกของฮัมบูร์ก โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม นีโอโกธิค หนึ่งในคลังสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดมีชื่อว่า เคชไปเคอร์ บี (Kaispeicher B) ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์การเดินเรือระหว่างประเทศ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารจีน

บ่าย เที่ยวชมบรรยากาศในเมือง เก็บภาพความประทับใจก่อนเดินทางกลับ

เดินทางสู่ สนามบินฮัมบูร์ก เพื่อเช็กอิน

18.25 น. บินสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 1664

22.40 น. ถึง สนามบินอิสตันบูล เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

01.35 น. บินสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบิน TK 68

15.25 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

 

หมายเหตุ

**โปรแกรมการเดินทางและมื้ออาหารที่ระบุในโปรแกรม อาจจะมีการสลับปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก รบกวนแจ้งเซลล์ก่อนทำการจองทุกครั้งเพื่ออัพเดทโปรแกรม ณ ปัจจุบัน ในวันนั้นๆโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ**

***ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อเช็คว่ากรุ๊ปมีการคอนเฟิร์มเดินทางก่อนทุกครั้ง เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบิน เพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว***