04.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินไทย (Thai Airways) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และหัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง

07.00 น. เหินฟ้าสู่นครเดลี โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG323

09.55 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี นครเดลี เวลาช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม. หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองศรีนาคา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองศรีนาคา เมืองทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย

..........น. นำท่านเหินฟ้าสู่ เมืองศรีนาคา โดยสายการบิน …. เที่ยวบินที่ ……..

..........น. เดินทางถึงเมืองศรีนาคา รับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย

นำท่านเดินทางสู่เมือง พาฮาลแกม เมืองหลวงของแคว้นจามมูและแคชเมียร์ ห่างจากศรีนาคาไปทางทิศตะวันออกประมาณ 87 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นชุมทางที่คนท้องถิ่นใช้เป็นเส้นทางเข้าสู่เมืองจามมู พาฮาลแกมเป็นเมืองที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,130 เมตร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 

ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Hill top หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

 นำท่านชมเมือง พาฮาลแกมที่ได้ขนานนามว่า หุบเขาของคนเลี้ยงแกะแล้วยังเป็นเมืองของการถ่ายทำ ภาพยนต์ Bollywood นำคณะเข้าชมสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ BeTaab Valle หรือ หุบเขาBEHTAB VALLEY เป็นสถานที่ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย ระหว่างสองข้างทางท่านจะผ่านพบวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ที่หลากหลาย เช่น หมู่บ้านที่ทำครกหิน หมู่บ้านที่ทำไม้ตีสำหรับกีฬาคลิกเก็ต ไม้แบตนี้ทำมาจากต้นหลิว (Willow Tree) ซึ่งพบเห็น เราจะพบเห็นชาวแคชเมียร์และอินเดียเล่นกีฬาประเภทนี้ ได้ทั่วไปทั้งในเมืองและนอกเมือง

Optional …ท่านสามารถเลือกขี่ม้าชมวิว บรรยากาศ เมืองพาฮาแกรม (ค่าขี่ม้าไม่รวมในค่าทัวร์ โปรดสอบถามและจองล่วงหน้ากับหัวหน้าทัวร์)

นำท่านชมความงามของแม่น้ำริดดาร์ เป็นแม่น้ำสายหลักที่รวมแม่น้ำสายย่อยๆ แม่น้ำลิดดาร์ (Liddar) แม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม เมืองพาฮาลแกม มีไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้คือ หญ้าฝรั่น (Saffron) หญ้าฝรั่นที่มีขายอยู่ทั่วแคชเมียร์ ซึ่งปลุกและมีผลผลิตดีที่สุดที่พาฮาลแกม เป็นแหล่งเพาะปลูกหญ้าฝรั่นที่ใหญ่ที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุด

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 

นำท่านเดินทางกลับสู่นครศรีนาคา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง

จากนั้นนำท่านสู่ทะเลสาบใจกลางเมือง นำท่านล่องเรือชิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) ชมสวนผักลอยน้ำ วิถีชีวิตชาวบ้านที่น่ารักริมน้ำ วิวภูเขาหิมะที่สวยงามล้อมรอบทะเลสาบ นกนานาชนิด พืชดอกไม้น้ำ ทะเลสาบใสสวยงาม ตลอดสองข้างทางชมทิวทัศน์ที่สวยงามของหมู่บ้านต่างๆ ทุ่งนา ทุ่งหญ้าริมน้ำ และต้นสนยักษ์ สมบูรณ์ที่สวยงาม และเป็นฉากของภาพยนตร์อินเดียมาหลายเรื่องแล้ว

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ที่ห้องอาหาร

ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Deluxe Houseboat หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม สวนนิชา บากห์ โดยมีต้นเมเปิ้ลอายุกว่า 400 ปี รวมทั้งพันธุ์ไม้นานาชนิดและดอกไม้ตามฤดูกาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกทิวลิปบานสะพรั่ง (ประมาณเดือน มี.ค. – เม.ย.) สวนแห่งนี้สร้างโดย ยอซาฟ คาน มีความงดงามที่สุดที่จะหาคำบรรยายได้

ให้ท่านเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปกับดอกไม้ที่แสนสวย และผ่านชมเมืองเก่าแคชเมียร์ที่ตั้งเมืองหลวงฤดูร้อนของกษัตริย์ในราชวงศ์โมกุลเนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโต ของต้นไม้ดอกไม้ จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต

นำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองกุลมาร์ค (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางสู่เทือกเขากุลมาร์ค ซึ่งเป็นสถานที่มีทัศนียภาพสวยงามแห่งหนึ่งในโลก ระหว่างทางสองข้างทางจะเป็นทุ่งนาข้าวสลับกับพันธุ์ไม้ป่าและฝูงสัตว์เลี้ยงตามเทือกเขาโดยเทือกเขาหิมาลัยนี้จะมีหิมะปกคลุมสลับกันไป อยู่ห่างจากเมืองศรีนาคาประมาณ 57 กิโลเมตร

เทือกเขากุลมาร์คเป็นพื้นที่ราบทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เมื่อถึงกุลมาร์คแล้วพาท่านเที่ยวชมเทือกเขาซึ่งเป็นภูเขาที่สวยงามแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ มีชื่อว่าเป็นทุ่งหญ้าของดอกไม้ (Meadow of Flower) เดิม กุลมาร์ค มีชื่อเรียกว่า เการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่านยูซุป ชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่งอกงามตามฤดูกาล อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก สูง 3,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลและสถานที่เล่นกีฬาสกีน้ำแข็งในฤดูหนาวจนไม่คิดว่านี้เป็นประเทศอินเดีย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

นำท่านไปยังสถานี *เคเบิ้ลคาร์ Gondola นำท่านขึ้นชมวิว (เฟส 1) (*รวมค่าขึ้นแล้ว) เพื่อขึ้นไปยังสถานีกงโดรีบนเขาอัฟฟาร์วัต ด้วยระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร (หากท่านต้องการขึ้นสู่ยอดเขาจะต้องนั่งเคเบิ้ลคาร์ ที่เฟสที่ 2 (ไม่รวมในค่าทัวร์)

ขึ้นสู่ยอดเขาเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ท่านสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีเฟสที่ 1 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดและสูงที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย เมื่อเดินทางถึงที่หมายสิ่งที่ท่านจะได้พบคือบรรยากาศและทัศนียภาพแบบพาโนรามาอันสวยงามบนเขาอัฟฟาร์วัต ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสก็จะสามารถมองเห็นยอดเขานันกา พาร์บัต (Nanga Parbat) ของเทือกเขาหิมาลัย

(มีบริการลากเลื่อนของชาวพื้นเมือง และ สโนวโมบิว แบบมีชาวพื้นเมืองบริการขี่พาชมเช่นกัน ค่าใช้จ่ายไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ สอบถามการจองและชำระเงินล่วงหน้าได้ที่หัวหน้าทัวร์)

ที่ยอดเขากุลมาร์คนี้หากฟ้าเปิด ท่านจะสามารถเห็นยอดเขา K2 ยอดเขาฝั่งปากีสถานซึ่งสูงเป็นอันดับ2รองจากยอดเขาเอเวอร์เรส ได้เวลาสมควรเดินทางกลับที่พัก เมืองศรีนาคา

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Deluxe Houseboat หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

ออกเดินทางสู่สนามบินศรีนาคา เช็คอินสัมภาระเคาเตอร์สายการบิน ….

........ น. นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเดลลี โดยสายการบิน ...... เที่ยวบินที่ ….

........ น. ถึงสนามบินเดลีรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน  

จากนั้นนำท่านผ่านชม ประตูชัย (India Gate) เป็นอนุสรณ์สถานของเหล่าทหารหาญที่เสียชีวิตจากการร่วมรบกับอังกฤษในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกานิสถาน ประตูชัยแห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลลี โดยซุ้มประตูแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมคล้ายประตูชัยของกรุงปารีสและนครเวียงจันทน์ ซึ่งมีความสูง 42 เมตร สร้างขึ้นจากหินทรายเมื่อปีคริสต์ศักราชที่ 1931 บนพื้นผิวของประตูชัยแห่งนี้จะปรากฏรายนามของทหารที่เสียชีวิตถูกแกะสลักไว้

และบริเวณใต้โค้งประตูจะปรากฏคบเพลิงที่ไฟไม่เคยมอดดับเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามอินเดีย-ปากีสถาน เมื่อปีคริสต์ศักราชที่ 1971 มีทหารยามเฝ้าบริเวณประตูชัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันการก่อวินาศกรรม

จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองอัครา ใช้เวลานั่งรถประมาณ 4-5 ชั่วโมง เมืองอัครา เมืองแห่งความรุ่งเรืองของราชวงศ์โมกุล ที่ตั้งอนุสรณ์สถานแห่งความรักริมฝั่งแม่น้ำยมุนา โดมขาวสีดั่งปุยเมฆที่ประกาศความยิ่งใหญ่ ท้าทุกการเดินทางของทุกคนที่มาเยือนอินเดียต้องมาชมความอลังการ และเก็บภาพที่ระลึกสักครั้ง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ที่ห้องอาหารโรงแรม 

ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก TAJ VILAS หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ห้องอาหารของโรงแรม  

นำท่านเข้าชม ทัชมาฮาล (Taj Mahal) แหล่งมรดกโลกเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญของโลก ซึ่งอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่และอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 ต่อมานำท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิคที่เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป และนำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง

แล้วนำท่านเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ ที่ประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหิน ที่เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย โดยอาคารตรงกลางจะเป็นรูปโดมซึ่งมีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล และ พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ ทัชมาฮาลแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 12 ปี โดยสิ้นเงินไป 41 ล้านรูปี มีการใช้ทองคำประดับตกแต่งส่วนต่างๆ ของอาคาร หนัก 500 กิโลกรัม และใช้คนงานกว่า 20,000 คน

ต่อมานำท่านเดินอ้อมไปด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำยมุนาโดยฝั่งตรงกันข้ามจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกปรับดินแล้ว โดยเล่ากันว่าพระเจ้าชาห์จาฮันเตรียมที่จะสร้างสุสานของตัวเองเป็นหินอ่อนสีดำโดยตัวรูปอาคารจะเป็นแบบเดียวกันกับทัชมาฮาล เพื่อที่จะอยู่เคียงข้างกัน แต่ถูกออรังเซบ ยึดอำนาจและนำตัวไปคุมขังไว้ในป้อมอักราเสียก่อน

**เนื่องจากทัชมาฮาลปิดทุกวันศุกร์ กรณีที่เข้าทัชมาฮาลตรงกับวันศุกร์ ทางบริษัทขอสงวนสิทธ์สลับโปรแกรมเที่ยวตามความเหมาะสม**

จากนั้นนำท่านเข้าชม อัคราฟอร์ด (Agra Fort) แหล่งมรดกโลก ทิ่ติดริมแม่น้ำยมุนาสร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปี ค.ศ. 1565 เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) , พระเจ้าชาห์จาฮานได้สร้างขยายต่อเติมป้อมและพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต และนำท่านเข้าชมป้อมผ่านประตู อำมรรสิงห์ เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวัง ผ่านลานสวนประดับ อ่างหินทรายสีแดงขนาดยักษ์สำหรับสรงน้ำ ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมสามยุคสมัยตามรสนิยมที่แตกต่างกันของสามกษัตริย์

นำท่านเข้าชมด้านในพระตำหนักต่างๆที่สลักลวดลายศิลปะแบบโมกุลที่มีอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย ผสมผสานกับศิลปะเปอร์เซีย แล้วนำขึ้นสู่ระเบียงชั้นที่สองที่มีเฉลียงมุข ซึ่งสามารถมองเห็นชมทิวทัศน์ลำน้ำยมุนาได้ ต่อมานำชมห้องที่ประทับของกษัตริย์ ,พระโอรส, พระธิดาและองค์ต่างๆ แล้วนำชมพระตำหนัก มาซัมมัน บูร์ช ที่มีเฉลียงมุขแปดเหลี่ยม มีหน้าต่างเปิดกว้าง ที่สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้

ในพระตำหนักนี้เองที่เล่ากันว่า ชาห์จาฮัน ถูกพระโอรส ออรังเซบ จองจำขังไว้ 7 ปี ในช่วงปลายรัชกาลจนสิ้นพระชนม์ แล้วก็นำชมลานสวนประดับ ดิวันอีอาอำ ที่ชั้นบนด้านหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานบัลลังก์นกยูงอันยิ่งใหญ่ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิหร่าน) และที่ลานสวนประดับแห่งนี้เองที่พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้พบรักครั้งแรกกับพระนางมุมตัซ ที่ได้นำสินค้าเป็นสร้อยไข่มุกเข้ามาขายให้กับนางในฮาเร็ม

กลางวัน กลับรับประทานอาหารกลางวัน 

นำท่านเดินทางสู่ กรุงนิวเดลลี (New Delhi) เมืองหลวงที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 5,000 ปี และเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรอินเดียโบราณ 7 อาณาจักร ต่อมาในปี 1857 อังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในการปกครองประเทศอินเดียและได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่โกลกัตตา และได้ย้ายกลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งหนึ่งในปี 1911 หลังจากอินเดียได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษในปี 1947 ก็ได้มีการสร้างสถานที่ทำการราชการโดยสร้างเมืองใหม่ชื่อว่า “นิวเดลลี”

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี นครเดลี

00.20 น. เหินฟ้ากลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG316

05.45 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 

หมายเหตุ

**โปรแกรมการเดินทางและมื้ออาหารที่ระบุในโปรแกรม อาจจะมีการสลับปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเป็นหลัก รบกวนแจ้งเซลล์ก่อนทำการจองทุกครั้งเพื่ออัพเดทโปรแกรม ณ ปัจจุบัน ในวันนั้นๆโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ**

***ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (เครื่องบิน ,รถทัวร์ ,รถไฟ) กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อเช็คว่ากรุ๊ปมีการคอนเฟิร์มเดินทางก่อนทุกครั้ง เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบิน เพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว***