กำหนดการเดินทาง
แผนการเดินทางท่องเที่ยว
กรุงเทพฯ - เดลลี - ชัยปุระ
04.30 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
07.35 น. ออกเดินทางจากสู่ เดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 323 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
10.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ…รอต่อเครื่องบินในประเทศ เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง
เมืองเดลี (Delhi) หรือชื่ออย่างเป็นทางการ ดินแดนเมืองหลวงแห่งชาติเดลี (National Capital Territory of Delhi) ย่อว่า เอ็นซีที (NCT) เป็นนครและดินแดนสหภาพของประเทศอินเดีย ประกอบด้วย นิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย
16.50 น. ออกเดินทางจากสู่ ชัยปุระ โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบิน 6E 2204
17.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานเมืองชัยปุระ เมืองหลวงของรัฐราชสถาน…รับกระเป๋าสัมภาระ ชัยปุระ...เมืองหลวงของรัฐราชสถาน ก่อตั้งเมื่อ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1727 โดยมหาราชาสวาอี ชัยสิงห์ที่ 2 เจ้าครองนครอาเมร์ (Amer) ในปัจจุบันชัยปุระยังเป็นที่รู้จักกันดีในอินเดียว่า "นครสีชมพู" สาเหตุเนื่องมาจาก ในปี ค.ศ. 1876 ในรัชสมัยของมหาราชาสวาอี ราม สิงห์ (Sawai Ram Singh) ได้มีพระบัญชาให้ทาสีอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ในเมืองเป็นสีชมพูเพื่อเป็นการต้อนรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ในคราที่เสด็จเยือนชัยปุระอย่างเป็นทางการ ซึ่งสีชมพูนั้นก็ยังคงไว้จนถึงปัจจุบันและได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของชัยปุระ จนทุกวันนี้...
นำท่านไปจุดเช็คอินสุดชิค ประตูปาตริก้า (Patrika gate) ประตูเมืองลำดับที่ 9 ของนครชัยปุระ ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนจาวาฮาร์ (Jawahar Circle) ประตูสีพาสเทลสดใส สะบัดส่าหรีกันอให้เต็มที่รับรองรูปออกมาปังแน่นอน!
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก: Ramada Jaipur หรือเทียบเท่า
ชัยปุระ (เต็มวัน)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นนำท่านไป แอมเบอร์ฟอร์ท (Amber fort) ไฮไลท์นั่งช้างขึ้นชมพระราชวัง เดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระ สร้างที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าในศตวรรษที่ 11 สร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ ใน ปี ค.ศ. 1592 และเสร็จสิ้นในสมัยของมหาราชาใจสิงห์ ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต (Rajput) นอกจากนี้ในสมัยก่อนด้านล่างของป้อมยังเป็นทะเลสาบ จึงเป็นปราการสำคัญเพื่อป้องกันข้าศึกได้อีกชั้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของราชวงศ์กาญจวาหาอยู่หลายร้อยปี ก่อนมหาราชาสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 จะตัดสินใจย้ายลงไปสร้างเมืองใหม่ยังชัยปุระ....ภายในพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท ประกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างในสมัยของมหาราชามาน ซิงห์ (Maharaja Man Singh) ในปี ค.ศ. 1592 และได้มีการขยายต่อเติมโดยมหาราชาองค์ต่อๆมา ช่วงนั้นจักรวรรดิโมกุลเข้ามามีอิทธิพลในดินแดนนี้จึงทำให้รูปแบบสถาปัตยกรรมภายในเป็นการผสมผสานระหว่างราชปุตกับโมกุล...
ได้เวลาอันสมควรนำท่านนั่งรถจี๊บกลับ
นำท่านชม บ่อน้ำขั้นบันได พานนา มีนา กา คุนด์ (Panna Meena Ka Kund) หรือ บ่อน้ำโบราณแบบขั้นบันไดใจกลางเมือง ตั้งอยู่ใกล้กับแอมเบอร์ฟอร์ต ออกแบบเป็นแนวทแยงแปดชั้นจากปากบ่อลงไปด้านล่างก้นบ่อนับเป็นสถาปัตยกรรมสวยงาม ที่เป็นเสมือนอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของ นครชัยปุระแห่งนี้
แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ จาลมาฮาล (Jal Mahal) หรือพระราชวังสายน้ำ (Water Palace) ซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา (Man Sagar) โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกต่อเติมและปรับปรุงโดยมหาราชาสะหวายจัยสิงห์ที่ 2 ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุลซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งก่อสร้างในรัฐราชสถาน โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทราย ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้นซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด โดยเหลือเพียงชั้นบนสุดซึ่งจะเผยขึ้นมาเหนือน้ำเท่านั้น
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
บ่าย นำท่านชม พระราชวังหลวงหรือพระราชวังซิตี้พาเลซ (City Palace) พระราชวังอันเป็นที่ประทับของมหาราชาแห่งชัยปุระ สร้างขึ้นในสมัยมหาราชาไสวจัยซิงห์ที่ 2 จากนั้นก็ได้รับการดูแลต่อเติมโดยมหาราชาของชัยปุระรุ่นต่อๆมา โดยสถาปัตยกรรมได้รับการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบ ราชปุตกับโมกุล โดยซิตี้พาเลซได้เปิดให้เข้าชมในนามของพิพิธภัณฑ์ไสวมานซิงห์ ภายในเขตพระราชฐานมีศาลาว่าราชการที่มหาราชาใช้ปรึกษางานกับข้าราชบริพาร ตั้งอยู่กลางผังพระราชวังและเหยือกเงิน (Silver Urms) แท้ๆ 2 ใบของมหาราชามัดโฮซิงห์ที่ 2 (Maharaja Madho Singh II) ซึ่งเหยือกสีเงินนี้จะวางอยู่ของประตูทางเข้า เหยือกนี้มีความสูงถึง 1.6 เมตร บรรจุน้ำได้ 900 ลิตร ในอดีตเคยถูกใช้บรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาเพื่อนำไปใช้ในพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 Private Zone พระราชวังส่วนในของมหาราชา ชมห้องพิเศษเพิ่มอีก 3 ห้อง โดยมีไกด์พาเราเดินชมจุดต่างๆ มีบริการเครื่องดื่ม ชา กาแฟ หรือน้ำผลไม้ พร้อมของว่าง และยังสามารถชมวิวมุมสูงของซิตี้พาเลสได้ด้วย
1.The Blue Palace or Sukh Niwas – ไฮไลต์ที่ใครๆมาชัยปุระก็ต้องแวะ เป็นห้องที่มักจะเห็นตามหนังสือ สื่อโซเชียลต่างๆ เป็นที่นิยมสำหรับ สายถ่ายรูป สายทำคอนเทนต์ และบล็อกเกอร์จากทั่วโลก ในอดีตเป็นห้องสำหรับพักพระวรกายของราชวงศ์ด้วยการโล้ชิงช้า ห้องนี้เน้นโทนสีฟ้า และมีการเขียนลวดลายเป็นดอกไม้ ใบไม้ด้วยสีขาว ดูสวยงามทีเดียว
2.The Room of Mirrors or the Sri Niwas เป็นห้องบรรทม ผนังและเพดานห้องประดับประดาด้วยกระจก ไฮไลท์ของห้องนี้คือ เมื่อปิดประตูแล้วจุดเทียน จะเห็นความวับวาวของกระจกที่สะท้อนแสงเทียน ดูระยิบระยับเหมือนดวงดาว
3. The Golden room of Shobha Niwas - ห้องนี้คล้ายๆ เป็นห้องรับแขก เป็นอีกห้องที่สวยงาม ห้องนี้ออกโทนสีทอง ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนและมีเสาสีทอง ประดับประดาด้วยกระจก หินสีแดง สีเขียว ตกแต่งเป็นลวดลายดอกไม้อยู่บนผนังและเพดาน
***ราคาโซนพิเศษไม่รวมในค่าทัวร์ โปรดสอบถามกับหัวหน้าทัวร์อีกครั้ง***
นำท่านชม หอดูดาวจันทรามันตรา (Jantar Mantar observatory) อนุสรณ์สถานทางด้านดาราศาสตร์ที่สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ใกสร้างโดยมหาราชา ไสว สิงห์ที่ 2 (ค.ศ.1699 – 1743) ผู้มีความสามารถทางด้านดาราศาสตร์แห่งราชวงศ์โมกุล หอดูดาวจันทรามันตราเป็นหอดูดาวแห่งแรกและเป็น 1 ใน 5 หอดูดาวที่ทรงสร้างขึ้น มีสภาพสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ที่สุด หอดูดาวอีก 4 แห่งถูกสร้างขึ้นใน เมืองต่างๆ ดังนี้ กรุงนิวเดลี (Delhi) เมืองอุชเชน (Ujjain) เมืองพาราณสี (Varanasi) และ เมืองมธุรา (Matura) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
นำท่านเช็คอิน สัญลักษณ์เมืองชัยปุระพระราชวังแห่งสายลม (Hawa Mahal) ถ่ายรูปด้านนอกเท่านั้น หนึ่งในหลายพระราชวังที่อยู่ในกำแพงเมืองของนครสีชมพูแห่งนี้ พระราชวังสายลมเคยเป็นฮาเร็มของมหาราชา มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายออกแดง รูปแบบของสถาปัตยกรรม สไตล์เปอร์เซียกับโมกุล ที่สวยเด่นคือลวดลายฉลุหินตามหน้าต่าง ช่องระบายอากาศที่บรรดา นางสนมในวังใช้เป็นที่แอบดูชีวิต ความเป็นอยู่ของสามัญชนทั่วไปด้านนอก และประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมมีช่องหน้าต่าง จำนวนมากถึง 152 ช่อง เลยทีเดียว
อุ่นเครื่องทักษะต่อรองราคาที่ ตลาดฮาวามาฮาล (Hawa Mahal Bazaar) มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือเครื่องประดับหลากหลากหลายแบบ ได้ตามอัธยาศัย หรือจะไปคาเฟ่เก๋ๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวฮาวามาฮาลแบบสุดปังก็ยังได้
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก: Ramada Jaipur หรือเทียบเท่า
ชัยปุระ - บิคาเนอร์
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองบิคาเนอร์ (Bikaner) ระยะทาง 340 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงเมืองนี้ก่อตั้งในปี 1488 โดยเจ้าชายแห่ง Rathore คือเจ้าชาย Rao Bikaji พระโอรสของมหาราชา Rao Jodhaji ผู้ก่อตั้งเมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) ด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันนักกับพระบิดา จึงทำให้เจ้าชาย Rao Bikaji ออกไปสร้างอาณาจักรใหม่ของตนเองให้ห่างจากเมือง Jodhpur พระองค์ได้แปลงพื้นที่รกร้างว่างเปล่าขนาดใหญ่ที่ยังไม่มีผู้คนไปอยู่อาศัยทางเหนือของจ๊อดปูร์ให้เป็นเมืองบิคาเนอร์ที่เรารูจักกันในปัจจุบัน เมืองที่เปี่ยมสีสันแห่งนี้โอบล้อมด้วยกำแพงยาว 7 กิโลเมตร โดยมีประตูทางเข้า 5 ประตู และเป็นที่ตั้งของป้อมปราการมากมาย รวมถึงวัด และเทวาลัยจำนวนมาก บิคาเนอร์ในปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สี่ของรัฐราชาสถาน แม้ว่าจะอยู่ในทะเลทรายธาร์ แต่เมืองบิคาเนอร์ถือเป็นโอเอซิสบนเส้นทางการค้าระหว่างเอเชียกลางและชายฝั่งคุชราต
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านชม ป้อมสีแดงแห่งเมืองบิคาเนอร์ หรือป้อมจูนนาการ์ (Junagarh Fort) วังมหาราชาที่อยู่ในสภาพดีสุดแห่งหนึ่งในราชาสถาน สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1588 ถูกสร้างขึ้นโดยราชปุต Rao Bika ด้วยการต่อสู้กับชนพื้นเมืองจนสามารถตั้งถิ่นฐานได้ แม้ผ่านการรุกรานจากมหาโมกุลหลายครั้งแต่ทะเลทรายที่อยู่รอบด้านรวมทั้งความกล้าหาญของนักรบ ช่วยให้เมืองอยู่รอดเสมอมา ภายในป้อมใหญ่แบ่งเป็นหลายส่วน เช่น Chandra Mahal, Phool Mahal, Karan Mahal และ Anoop Mahal จากนั้นนำท่าน นั่งรถตุ๊กตุ๊กชมย่านเมืองเก่าเมืองบิคาเนอร์
ชม รัมปูเรียฮาเวลี (Rampuria Haveli) คฤหาสน์สุดหรู 7 หลัง ของท่านเศรษฐีบิคาเนอร์ สร้างขึ้นต้ังแต่ช่วงปี ค.ศ. 1400 มีการใช้หินทรายแดงในการสร้างคฤหาสน์ทุกหลัง แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจง ตกแต่งด้วยไม้เนื้อดี มีการผสมผสานงานศิลปะแบบโมกุล วิคตอเรียนและราชปุตได้ อย่างลงตัวถ่ายรูปลงอวดเพื่อนๆโซเชียลรับรองว่าปัง !
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก: Vesta Bikaner หรือเทียบเท่า
บิคาเนอร์ - จัยแซลเมียร์
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
เดินทางสู่ เมืองจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer) ระยะทาง 330 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จัยแซลเมียร์ คือเมืองที่ได้รับสมญานามว่า “นครสีทอง” ตั้งอยู่บนที่ราบสูงกลาง ที่ราบทะเลทรายธาร์ มีกำแพงสูงใหญ่ดูโอฬาร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคว้นราชาสถาน ในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าที่ สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลาง นครแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ เมื่อยามต้องแสงอาทิตย์อัสดงที่ไล้ลงบนพื้นผิวของหินเหล่านี้ ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นสีทองอร่ามตา และนี่คือที่มาของสมญา “นครสีทอง” ด้วยเหตุที่จัยแซลเมียร์เคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ส่งผลให้พ่อค้าวาณิชย์ในตระกูลดังๆ หลายๆคนร่ำรวยกันอย่างมหาศาล กลายเป็นอภิมหาเศรษฐี มีคฤหาสน์ที่ใหญ่โตมโหฬาร
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมเมืองจัยแซลเมียร์ ทะเลสาบกาดซิซาร์ (Gadsisar Lake) โอเอซิสขนาดมหึมาท่ามกลางทะเลที่สร้างโดยมหาราชาวาลกาดซี ราว ค.ศ.ที่ 14 ซึ่งทะเลสาบนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมืองจัยแซลเมียร์ รอบๆทะเลสาบจะมีวัดและอนุสรณ์สถานเล็กๆ สีเหลืองทองอร่าม และใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณี “กานกัวร์” (Gangaur) โดยมีมหาราวัลของจัยแซลเมียร์เป็นผู้ทำนำพิธีด้วยตัวเอง ซึ่งประเพณีนี้หญิงโสดจะโยนดอกไม้ลงไปในทะเลสาบและอธิษฐานขอคู่ชีวิตที่ดีๆ
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลยทรายธาร์ (Thar Desert) ทะเลทรายขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดียและปากีสถาน มีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตร.กม. ถือเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ทะเลทรายมากกว่าร้อยละ 60 ตั้งอยู่ในรัฐราชสถาน ส่วนที่เหลือกระจายไปในรัฐคุชราต, รัฐปัญจาบ และรัฐหรยาณา และส่วนที่กระจายในปากีสถานอยู่ในแคว้นสินธ์ และแคว้นปัญจาบทะเลทรายล้อมรอบด้วยทิวเขาอะราวัลลีทางด้านตะวันออก แม่น้ำคงคาทางด้านตะวันตก แม่น้ำสัตเลชทางด้านเหนือและทะเลอาหรับ ทางด้านใต้ นำท่านขี่อูฐชมทะเลทรายธาร์ ชมสันทราย Sam Sand Dunes เป็นที่ซึ่งโค้งขอบฟ้าจรดกับผืนแผ่นทรายได้อย่างงดงามเกินคำบรรยาย
ค่ำ พิเศษ!! ชมโชว์การเต้นระบำราชาสถานอันเป็นเอกลักษณ์และรับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก: Heritage Juma Camp หรือเทียบเท่า
สัมผัสประสบการนอนกลางทะเลทรายทียิ่งใหญ่อันดับสองของโลก การได้มาใช้ชีวิตในทะเลทรายในครั้งนี้ การได้มาขี่อูฐที่ทะเลทรายธาร์ เมืองจัยซัลแมร์ ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
จัยแซลเมียร์ - จ๊อดปูร์
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
ชมแลนด์มาร์ค ป้อมปราการจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย สร้างโดย Bhatti Rajput rule Rawal Jaisal ค.ศ. 1156 โดยป้อมนี้ถือว่าเป็นป้อมที่สร้างลำดับที่ 2 ของรัฐราชสถานรอบๆ ป้อมจัยแซลเมียร์มีหอรบถึง 99 หอ โดยศัตรูหลักของเมืองนี้คือ บรรดาเจ้าราชปุตของนครต่าง ๆ รวมถึงจักรพรรดิอัคบาร์แห่งโมกุล ซึ่งต่อมากลายเป็นเขยของเมืองนี้ไปในที่สุด ปัจจุบัน ป้อมจัยแซลเมียร์เป็นป้อมเดียวในอินเดียที่มีผู้คนอาศัยอยู่ด้านบนบนเขาทิตรีกูฏ ชมความสวยงามของ “ปราสาททราย” ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางทะเลทรายภายในป้อมมีบ้านพักของชาวบ้านที่พำนักอยู่อาศัยมานานนับร้อยปีท่านจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองจัยแซลเมียร์
จากนั้นนำชมความงามของคฤหาสน์เสนาบดี หรือ ฮาเวลี (Haveli) ฮาเวลีแบบจัยซัลเมียร์ สร้างโดยที่เจ้าของจะต้องมีเงินทองมากมายจึงจะทุ่มเงินสร้างคฤหาสน์ไว้อยู่อาศัยได้ แต่นอกจากความใหญ่โตแล้ว ฮาเวลีของเมืองจัยแซลเมียร์นั้น มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่เหมือนเมืองอื่นๆ คือเป็นคฤหาสน์ที่สร้างจากหินทรายสีทอง ส่วนอาคารชั้นล่างยกสูงจากพื้นเพื่อป้องกันฝุ่นจากทะเลทราย ชมคฤหาสน์ Nathmal Ji Ki Haveli ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง มีชื่อเสียงในด้านรูปแบบสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการออกแบบราชปุตและโมกุล คฤหาสน์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของ Diwan Mohata Nathmal ส่วนหน้าอาคารที่สวยงามได้รับการออกแบบเป็นรูปนก ช้าง ดอกไม้ จักรยาน รถจักรไอน้ำและทหาร
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) โยธาปุระ เมืองสีฟ้า ระยะทางประมาณ 290 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง “เมืองจ๊อดปูร์” เมืองที่ได้ฉายาว่าเมืองแห่งความตายเพราะอยู่กลางทะเลทรายธาร์ในอดีต เมืองสีน้ำเงินจ๊อดปูร์ Jodhpur หรือ เมืองโยธะปุระ ในปัจจบันเป็นเมืองโรแมนติกหรือเมือง โยธะปุระ นครนักรบ ทั่วทั้งเมืองเป็นสีฟ้าน้ำทะเล ใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน ตั้งโดยสร้างโดย มหาราชา ราโอ จอดา (Rao Jodha) แห่งราชวงศ์ Rathorถือเป็นเมืองเก่าแก่ของพวกราชบุตรเป็นต้นกำเนิดของอีกหลายราชวงศ์เช่นราชาแห่งบิคาเนอร์ก็เคยเป็นเจ้าชายแห่งจ๊อดปูร์ความเก่าทำให้เมืองนี้มีมนต์ขลังเป็นศูนย์กลางของราชาสถานตั้งแต่อดีตกาลนานหลายร้อยปี สีน้ำเงินหรือสีฟ้านี่เป็นสีของวรรณะพราหมณ์แล้วเมืองนี้ก็มีคนวรรณะนี้มาก บ้านเรือนเลยทาสีน้ำเงินทั้งเมือง กับเหตุผลที่ 2ก็คือ เพราะความที่อยู่กลางทะเลทรายธาร์ที่ร้อนและแห้งแล้ง การทาบ้านเรือนสีฟ้าหรือสีน้ำเงินจะทำให้ดูสบายตาและเย็นใจมากขึ้น
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก: Zone by The Park Jodhpur หรือเทียบเท่า
จ๊อดปูร์ - รานัคปูร์ - อุไดปูร์
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
พาท่านชม อนุสรณ์สถานจาสวานต์ธาดา (Jaswant Thada) สิ่งปลูกสร้างสีขาวสะอาดตาที่ สร้างด้วยหินอ่อนหลังคาทรงปรางค์ปราสาทประดับโดยหินอ่อน ตั้งอยู่ห่างจากป้อมเมหุ์รานการห์ไปประมาณ 1 กิโลเมตร อนุสรณ์นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1899 เพื่ออุทิศให้กับมหาราชาจัสวันต์ ซิงห์ที่ 2 (Maharaja Jaswant Singh II) หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว 4 ปี โดยเป็นมหาราชาที่ได้การนับถือจากประชาชนมากมาย เป็นทั้งผู้ริเริ่มโครงการชลประทาน จัสวันต์ธาดาสร้างจากหินอ่อนจากแหล่งเดียวกับที่นำไปสร้างทัชมาฮาล
นำท่านชม ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort ) ป้อมนี้เป็นป้อมโบราณที่มีความยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งในสี่ของพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ใน ค.ศ. 1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกว่ามหาราชาจ๊อดธะ พระองค์ควรสร้างเมืองขึ้นที่นี่ จ๊อดปูร์เป็นศูนย์กลางอาณาจักรใหญ่แต่ครั้งโบราณ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งให้มีขนาดใหญ่มหึมา ป้อมโบราณที่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ภายในยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Batman The dark knight rises (2012) อีกด้วย ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ควรพลาด พระตำหนักพูลมาฮาล (Phool Mahal) หรือ พระตำหนักแห่งมวลดอกไม้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1724 โดยได้รับการยกย่องว่าสวยงามและละเอียดอ่อนที่สุดในบรรดาตำหนักทั้งหมดที่อยู่ภายในป้อม ภาพวาดที่ผนังและเพดานเป็นผลงานของศิลปินเพียงท่านเดียว ส่วนใหญ่เป็นภาพวาดลายดอกไม้และเถาไม้ประดับจำนวนมาก โดยเรียกการวาดภาพแบบนี้ว่า รักมาลา (Ragmala Painting) จุดประสงค์ของห้องนี้ใช้เพื่อความสำราญ ฟังดนตรีและชมการเต้นรำ ลานราชาภิเษก (Coronation Courtyard) ที่้เรียกชื่อนี้เพราะมีบัลลังก์แกะสลักด้วยหินอ่อน ซึ่งเป็นที่ประทับของมหาราชาแห่งจ๊อดปูร์ในวันที่ได้รับการสถาปนาให้ปกครองเมืองแต่ละยุคตั้งอยู่ ตำหนักจันกิมาฮาล (Jhanki Mahal) ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์เปลเด็ก ซึ่งงดงามมีเอกลักษณ์สมกับเป็นเครื่องใช้ของเชื้อพระวงศ์ พิพิธภัณฑ์ล้ำค่า เป็นพิพิธภัณฑ์เสลี่ยงหรือปัลกิกานา เป็นเสลี่ยงโบราณสวยงามและหาชมได้ยาก และยังมีห้องแสดงประทุนหลังช้าง ของมหาราชายุคต่างๆ มีส่วนที่ใช้แสดงอาวุธต่างๆ ที่ใช้ในอดีตสำหรับสู้รบ พระตำหนักโมติมาฮาล (Moti Mahal) หรือพระตำหนักไข่มุก จุดเด่นอยู่ที่การนำเปลือกหอยมุกมาบด ก่อนนำไปผสมปูนแล้วฉาบลงบนผนังห้อง ทำให้เวลาค่ำคืนจุดเทียนผนังห้องจะดูแวววาว ส่วนเพดานใช้กระจกเป็นสีๆ จุดประสงค์ของห้องนี้เพื่อใช้ในการหารือราชการกับข้าราชบริพารระดับสูง ตากัตวิลลา (Takhat Villa) เป็นห้องนอนหรูหราอลังการ ของมหาราชาตากัต ซิงห์ (Maharaja Takhat Singh) ที่ห้องมีความแปลกคือเพดานมีการประดับประดาด้วยลูกบอลคล้ายลูกบอลคริสต์มาส
จากนั้นนำท่าน นั่งตุ๊กตุ๊กชมเมืองจ๊อดปูร์ ถ่ายรูปกับอาคารบ้านเรือนสีฟ้าหลากหลายเฉดทั้งฟ้าและน้ำเงิน ไม่ต้องไปไกลถึงโมร็อกโก
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอุไดปูร์...เวนิสแห่งตะวันออกในอินเดีย ระยะทางประมาณ250 ก.ม.ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง เมืองอุไดปูร์ (Udaipur) เมืองท่องเที่ยวที่รู้จักกันในชื่อ เมืองแห่งทะเลสาบ ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรเมวาร์ นครนี้ตั้งขึ้นโดยอุทัย สิงห์ที่ 2 ราชปุตแห่งราชวงศ์สิโสทิยา ตามหลังการย้ายเมืองหลวงจากจิตโตรครห์มาที่อุทัยปุระ หลังจิตโตรครห์ถูกยึดโดยจักรพรรดิอักบัร เมืองอุทัยปุระได้เป็นเมืองหลวงจนถึงปี 1818 เมื่อได้กลายเป็นรัฐมหาราชาภายใต้การปกครองของอังกฤษ ระหว่างทางผ่าน เมืองรานัคปูร์ (Ranakpur)
นำท่านชม วัดเชน (Chaturmukha Jain Temple) วัดของศาสนาเชน สร้างโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในประกอบด้วยห้องโถงกว่า 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดม และเสาถึง 1,144 ต้น เสาแต่ละต้นจะถูกแกะสลักอย่างงดงามมาก..เดินทางถึงอุไดปูร์
จากนั้นนำท่านเดินทางไป ล่องเรือทะเลสาบพิโชลา (Pichola Lake) ทะเลสาบใจกลางเมืองอุไดปูร์ เป็นที่ตั้งของเกาะ 2 แห่ง โดยเกาะแรกตั้งอยู่กลางทะเลสาบ เป็นที่ตั้งของพระราชวังจักนิวาส ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโรงแรมเลกพาเลซ ส่วนอีกเกาะซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือของพระราชวังจักมันเดียร์ ซึ่งปัจจุบันคือโรงแรมการ์เดนพาเลซ (Lake Garden Palace) ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่หรูหราอลังการของพระราชวังจากริมน้ำและทิวทัศน์รอบทะเลสาบยามแสงอาทิตย์สีทองสาดส่องมากระทบผิวน้ำ ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกสุดๆ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก: Radisson Blu Udaipur หรือเทียบเท่า
อุไดปูร์ - เดลลี
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านชม วัดจักดิศ (Jagdish Temple) วัดฮินดูที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุไดปูร์ มีอายุเกือบ 400 ปี สร้างในปี ค.ศ. 1651 ในสมัยของมหารานาจากัต ซิงห์ที่ 2 (Maharana Jagat Singh II) โดยภายในมีหินสีดำแกะสลักเป็นรูปจากานนาทซึ่งเป็นภาคหนึ่งชองพระวิษณุ และยังมีจุดเด่นอยู่ตรงการแกะสลักผนังวัดเป็นรูปนางอัปสราและสัตว์ลักษณะต่างๆ…
จากนั้น ช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากบริเวณวัดจักดิศ
จากนั้นชม พระราชวังหลวงอุไดปูร์ (Udaipur City Palace) ศูนย์กลางความวิจิตรอลังการ พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่เริ่มสร้างเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1559 โดย Maharana Udai Singh และได้ต่อเติมขยับขยายเรื่อยมาโดยมหาราชาผู้ครองนครในยุคต่อมา จนกลายเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในราชาสถานอย่างที่เห็นในทุกวันนี้
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม สวนราชินี Saheliyon-ki-Bari สร้างโดย รานา ซันแกรม ซิงห์ (Rana Sangram Singh) สร้างให้กับพระชายาของพระองค์เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงในช่วงฤดูร้อน ชมสระบัวขนาดใหญ่ น้ำพุและดอกไม้ ต้นไม้นานาพันธุ์ในสวนแห่งนี้…นำท่านเดินทางสู่สนามบินอุไดปูร์
นำท่านชม บาร์กอร์ กิ ฮาเวลี (Bagore Ki Haveli) สร้างขึ้นโดย Shri Amar Chand Badwa ซึ่งเป็นเจ้าเมืองในขณะนั้นในปี ค.ศ.1751 ภายหลังได้ตกเป็นของมหาราชา และถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลานาน ก่อนที่จะถูกบูรณะและปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อปี ค.ศ.1986 ภายจัดแสดงห้องต่างๆ ของเศรษฐีในยุคนั้นชม ท่าน้ำกานกัวร์ (Gangaur Ghat) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบพิโชล่า
20.00 น. ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยายการบินอินดิโก เที่ยวบินที่ 6E 6084
21.20 น. เดินทางถึง เดลลี นำท่านเช็คอินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
เดลลี - กรุงเทพฯ
01.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 332
07.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ...
************** หมายเหตุ : 1. เวลาที่ปรากฏในโปรแกรมกับการปฏิบัติจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขอให้ท่านรับทราบคำแนะนำการเปลี่ยนแปลงการนัด หมายเวลาในการทำกิจกรรมอีกครั้งจากหัวหน้าทัวร์ 2. บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงรายการ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม แต่จะยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน โรงแรมที่พัก ภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงานฯลฯ ตลอดจนสภาวะทาง เศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองภายใน อันเป็นสาเหตุให้ต้องเลื่อนการเดินทางหรือไม่สามารถจัดพาคณะท่องเที่ยวได้ตามรายการ “ราคาทัวร์สำหรับลูกค้าที่ถือพาสปอร์ตไทยเท่านั้น”***พาสปอร์ตต่างชาติโปรดติดต่อเรา**
ข้อมูลราคา
กำหนดการ : 27 ธ.ค. 2567-04 ม.ค. 2568 | ||
---|---|---|
ลักษณะการเข้าพัก | ราคาทัวร์ รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) | ราคาทัวร์ ไม่รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) |
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ ราคาท่านละ | 59,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ราคาท่านละ | 59,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (มีเตียง) ราคาท่านละ | 59,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง) ราคาท่านละ | 59,900 | - |
ผู้ใหญ่ ต้องการพักห้องเดี่ยว ราคาท่านละ | 70,400 | - |
ผู้ใหญ่ 3 ท่าน พัก 1 ห้อง ราคาท่านละ | 59,900 | - |
เดือนธันวาคม 67 | ผู้ใหญ่ | เด็ก | ||||
---|---|---|---|---|---|---|
วันที่เดินทาง | พักคู่ ท่านละ | พักเดี่ยว ท่านละ | พักสาม ท่านละ | เด็ก ท่านละ | มีเตียง ท่านละ | ไม่มีเตียง ท่านละ |
59,900 | 70,400 | 59,900 | 59,900 | 59,900 | 59,900 |
*** เมื่อชำระค่ามัดจำแล้วถือว่ารับทราบเงื่อนไขการจองทัวร์ทุกประการ ***
กรณีลูกค้าที่มีความประสงค์ซื้อตั๋วเครื่องบินภายในประเทศสำหรับการเดินทางต่อ กรุณาสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
เงื่อนไขโปรแกรมทัวร์
อัตราค่าบริการนี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินสายการบินการบินไทย (TG) เดินทางไป-กลับพร้อมคณะ
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ และค่ายานพาหนะทุกชนิดสำหรับนำเที่ยว ตามที่ระบุไว้ในรายการ
- ค่ารถรับส่งระหว่างสนามบิน-โรงแรมที่พัก
- ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญเส้นทางดูแลตลอดการเดินทาง
- ค่าประกันภัยการเดินทางกรณีอุบัติเหตุ คุ้มครองในวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
- ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษนอกรายการ ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์ทางไกล, ค่าอินเตอร์เน็ต ฯลฯ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
- ค่าทำหนังสือเดินทาง, ค่าทำใบอนุญาตกลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ หรือ คนต่างด้าว (เป็นหน้าที่ของผู้เดินทางในการจัดทำเอง)
- ค่าทิปสำหรับ มัคคุเทศก์ พนักงานขับรถ พนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม
- ค่าปรับ สำหรับน้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่เกินจากที่ทางสายการบินกำหนดไว้
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ (ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)
- ค่าธรรมเนียมน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บ อาจรวมถึงมีการเรียกเก็บเพิ่มเติมในภายหลัง
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น, พนักงานขับรถ ตามระเบียบธรรมเนียม รวมทั้งทริป 50 USD/ท่าน
เงื่อนไขการชำระเงิน
- กรุณาทำการจองก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 60 วันทำการหรือก่อนหน้านั้น โดยแฟกซ์หรืออีเมลล์หน้าพาสปอร์ตผู้เดินทาง เพื่อยินยันการจองที่นั่ง
- กรุณาชำระเงินมัดจำ ทันทีหลังจากทำการจอง ท่านละ 30,000 บาท สำหรับการเดินทางช่วงเทศกาล กรุณาชำระมัดจำ 70% ของราคาทัวร์ทั้งหมด
- ค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ บริษัทฯ จะขอเก็บค่าทัวร์ทั้งหมดก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 45 วันทำการ มิเช่นนั้นบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางของท่าน และการคืนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
หากมีการติดต่อให้โอนเงินเข้าบัญชีโปรดพึงระวังว่าท่านอาจถูกกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อบริษัทฯ เพื่อการหลอกลวง
การยกเลิกและการเปลี่ยนแปลง
- หากยกเลิกก่อนออกเดินทางน้อยกว่าวันดังกล่าว ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการหักเงินทั้งหมด หรือ บางส่วนตามที่เกิดค่าใช้จ่ายขึ้นจริง เนื่องจากทางบริษัท ฯ มีค่าใช้จ่ายที่ได้ชำระล่วงหน้าไปแล้ว
- ในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯและในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่ระบุในรายการบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
- - แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ
(หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)
- แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
- แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
- ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% - ***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ
- รายการทัวร์นี้เป็นการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ (Join Tour) จัดทำและดำเนินการโดยบริษัทคู่ค้า (Partner)
- อัตราค่าบริการคิดคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน และราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนราคาค่าบริการในกรณีที่มีการขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าประกันภัยสายการบิน ค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือมีการประกาศลดค่าเงินบาท หรืออัตราแลกเปลี่ยนได้ปรับขึ้นในช่วงใกล้วันที่คณะจะเดินทาง
- ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้ หากท่านไม่ใช้บริการใดๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่สามารถเรียกร้องขอคืนค่าบริการได้
- หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะทัวร์ ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้ ไม่สามารถนำมาขอคืนเงินได้
- ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิก หรือเปลี่ยนกำหนดการเดินทาง หากมีผู้ร่วมเดินทางในคณะทัวร์ ไม่ครบตามที่กำหนดไว้
- ค่าบริการที่ท่านชำระกับทางบริษัทฯ เป็นการชำระแบบเหมาขาด และทางบริษัทฯ ได้ชำระให้กับบริษัทฯ ตัวแทนแต่ละแห่งแบบเหมาขาดเช่นกัน ดังนั้นหากท่านมีเหตุอันใดที่ทำให้ท่านไม่ได้ท่องเที่ยวพร้อมคณะตามรายการที่ระบุไว้ ท่านจะขอคืนค่าบริการไม่ได้
- กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบิน บริษัทขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯ จะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สำหรับค่าบริการนั้นๆ
- มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น
- บริษัทฯ และตัวแทนของบริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการทัวร์ตามความเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ข้อจำกัดด้านภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริง ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือและคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าส่วนมากเป็นสำคัญ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาและเงื่อนไขต่างๆ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯ เท่านั้น อีกทั้งข้อสรุปและข้อตัดสินใดๆ ของบริษัทฯ ให้ถือเป็นข้อยุติสิ้นสุดสมบูรณ์
- โปรแกรมทัวร์นี้จะสามารถออกเดินทางได้ต้องมีจำนวนผู้เดินทางขั้นต่ำรวมในคณะตามที่กำหนดไว้เท่านั้น หากมีจำนวนผู้เดินทางรวมแล้วน้อยกว่าที่กำหนดไว้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนการเดินทางได้
เงื่อนไขนอกเหนือความรับผิดชอบ
- บริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น การเดินทางของผู้เดินทางด้วยวัตถุประสงค์แอบแฝงอื่น ๆ เช่น การไปค้าแรงงาน การค้าประเวณี การค้ามนุษย์ การขนส่งสินค้าหนีภาษี การขนยาเสพติด การโจรกรรม การขนอาวุธสงคราม การก่อการร้าย และ อื่น ๆ ที่เข้าข่ายผิดกฏหมาย ผิดศีลธรรมอันดี บริษัทฯ มิได้มีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้อง หรือ มีส่วนต้องรับผิดชอบใด ๆ กับการกระทำดังกล่าวทั้งสิ้น
- หากผู้เดินทางถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้นๆ ปฏิเสธการเข้า - ออกเมือง ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ถือเป็นเหตุผลซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจ และความรับผิดชอบของบริษัทฯ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบคืนเงินทั้งหมด
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยงดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติ หรือ คนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในประเทศไทย แต่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือเจรจา แต่อำนาจสิทธิ์ขาดเป็นของทางกองตรวจคนเข้าเมือง
- ผู้เดินทางต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวท่านเอง บริษัทฯ จะไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากเกิดความไม่พึงพอใจในสินค้าที่ผู้เดินทางได้ซื้อระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวนี้
- ผู้เดินทางต้องรับผิดชอบต่อการจัดเก็บ และ ดูแลทรัพย์สินส่วนตัว ของมีค่าต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง บริษัทฯ จะไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากเกิดการสูญหายของ ทรัพย์สินส่วนตัว ของมีค่าต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อันมีสาเหตุมาจากผู้เดินทาง
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายของทรัพย์สิน และ สัมภาระระหว่างการเดินทางอันมีสาเหตุมาจากสนามบิน สายการบิน บริษัทขนส่ง โรงแรม หรือ การโจรกรรม แต่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเรียกร้องค่าชดใช้ให้กับผู้เดินทาง
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากการยกเลิกหรือความล่าช้าของสายการบิน ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงาน การจลาจล การปฏิวัติ รัฐประหาร ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ต่อการไม่เป็นไปตามความคาดหวัง และความไม่พึงพอใจของผู้เดินทาง ที่เกี่ยวข้องกับ สภาพธรรมชาติ ภูมิอากาศ ฤดูกาล ทัศนียภาพ วัฒนธรรม วิถีและพฤติกรรมของประชาชนในประเทศที่เดินทางไป
คำแนะนำและข้อควรระวังในการเดินทาง
- ทุกประเทศมีมิจฉาชีพ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ผู้เดินทางควรมีความระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว จากเหตุร้ายต่าง ๆ
- ผู้เดินทางควรเก็บหนังสือเดินทาง และ ทรัพย์สินมีค่าไว้ในที่ปลอดภัย โดยหมั่นตรวจสอบดูอยู่เสมอ ตลอดระยะเวลาการเดินทาง ตลอดจนระมัดระวังต่อการสูญหาย หรือ ถูกขโมยจากผู้ไม่หวังดี
- อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่ทราบล่วงหน้า และ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว ผู้เดินทางควรใส่ใจต่อคำเตือนของไกด์ หัวหน้าทัวร์ ท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง และ ไม่ประมาท
- การเลือกซื้อสินค้าระหว่างการเดินทาง ผู้เดินทางควรใช้วิจารณญาณในการพิจารณาเลือกซื้อสินค้า จากคุณภาพ ราคา และความพึงพอใจ อย่างถี่ถ้วน สินค้าในทุกประเทศมีทั้งที่มีคุณภาพดี ปานกลาง หรือ คุณภาพต่ำ แตกต่างกันไป สิทธิ์ในการจะซื้อหรือไม่ซื้อเป็นของผู้เดินทาง
- ผู้เดินทางควรจดบันทึกเบอร์โทรของมัคคุเทศก์ หัวหน้าทัวร์ หรือ ผู้ร่วมเดินทางท่านอื่น เผื่อกรณีมีเหตุฉุกเฉินจะสามารถติดต่อกันได้
- ผู้เดินทางควรเลือกซื้อประกันภัยการเดินทางเพิ่มเติม เพื่อการคุ้มครองในแง่มุมต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสมหากเกิดกรณีฉุกเฉิน
ข้อตกลงสำคัญ โปรดตรวจสอบก่อนสำรองที่นั่ง
1.ท่านต้องตรวจสอบการสะกดเป็นภาษาอังกฤษต่าง ๆ ให้ตรงกับ หนังสือเดินทาง ( Passport )
1.2 คำนำหน้า ชื่อ เช่น Mr. / Mrs. / Miss.
1.3 ชื่อ / ชั้นยศ / ทางตำรวจ / ทหารเป็นต้น (ถ้ามีและต้องการระบุ)
1.4 เบอร์สะสมไมล์ของสายการบินต่าง ๆ (ในกรณีที่สามารถสะสมไมล์ได้)
1.5 กรณีมีเด็กร่วมเดินทาง โปรดตรวจสอบว่าอายุเด็กนั้น ๆ อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องใช้ราคาบัตรโดยสารประเภทใด ตรงตามอายุของเด็กหรือไม่
1.6 โปรดตรวจสอบ อายุ ของหนังสือเดินทาง ( Passport ) ของผู้โดยสาร และผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน ว่าจะต้องคงมีอายุเหลือ ณ วันเดินทาง มากกว่า 6 เดือน ขึ้นไป
3. กรณีที่ ท่านไม่ได้ทำการทักท้วงใดๆ แบบไปลายลักษณ์อักษร บริษัทฯ ถือว่าท่านได้ตกลงรับทราบเงื่อนไข และข้อกำหนดทั้งหมด ของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหากเกิดความเสียหายใดๆ ขึ้น บริษัทฯ ไม่ต้องรับผิดชอบ ใดๆ ทั้งสิ้น
4. หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่วยเหลือและสำรองที่นั่ง ที่ท่านติดต่อได้ตลอดเวลาทำการของบริษัทฯ ระหว่างเวลา 08.30-18.00 น. ในวันจันทร์ - ศุกร์ ในวันเสาร์ ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. ในวันนักขัตฤกษ์ 09.00-16.00 น. ได้ทางโทรศัพท์ หมายเลข 02 308 8383 (อัตโนมัติ 300 คู่สาย) โดยหยุดทำการในทุกวันอาทิตย์