20.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขาออก ประตู 3 เคาน์เตอร์ D โดย สายการบินไทย

เจ้าหน้าที่ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารก่อนขึ้นเครื่อง

23.15 น. เหินฟ้าสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG 682 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง / เวลาท้องถิ่นจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)

06.55 น. เดินทางถึงสนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

จากนั้นนำทุกท่านนมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ “วัดอาซากุสะ (ASAKUSA TEMPLE)” วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ประกอบกับภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “ประตูฟ้าคำรณ” และถนนจากประตูเข้าสู่ตัววิหารที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมทองคำ มีชื่อว่า “ถนนนากามิเซะ” ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย อาทิ ขนมนานาชนิด ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก

แล้วให้ท่านหามุมถ่ายรูปคู่กับ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงโตเกียว “หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (TOKYO SKY TREE)” หอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร ที่บรรจุเทคโนโลยีแนวหน้าสุดสามารถมองเห็นได้จากบริเวณวัดอาซะกุสะ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บุฟเฟ่ต์ ชาบู ชาบู สไตล์ญี่ปุ่น 

จากนั้นนำท่านชม “พระพุทธรูป อุชิคุ ไดบุทสึ (USHIKU DAIBUTSU)” ที่ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่า เป็นรูปปั้นพระพุทธรูปปางยืน ที่หล่อจากทองสัมฤทธิ์ที่สูงที่สุดในโลก จากความสูงถึง 120 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ใจกลางเมืองโตเกียวเลยทีเดียว แต่ไฮไลท์ของที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงที่สักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าไปยังบริเวณภายในรูปปั้นและขึ้นไปยังจุดที่เป็นหอสังเกตการณ์ในระดับความสูงที่ 85 เมตร ซึ่งจะอยู่ตรงส่วนของหน้าอกพระพุทธรูป เป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวในมุมด้านกว้างได้ทั้งหมด บนชั้นนี้จะมีกระจกที่เป็นช่องหน้าต่างอยู่ด้วยกัน 4 ด้าน ในวันที่ฟ้าเปิดจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากตรงนี้อีกด้วย(ไม่รวมค่าลิฟท์)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “ไร่สตรอว์เบอร์รี่ (STRAWBERRY FARM)” ให้ท่านได้รู้กรรมวิธีในการปลูกสตรอว์เบอร์รี่ของชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง ท่านสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสตรอว์เบอร์รี่สดในฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็น ขนมพายสตรอว์เบอร์รี่เลื่องชื่อ, แยมสตรอว์เบอร์รี่, สตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญท่านจะได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อย หอมหวานกับการเก็บสตรอว์เบอร์รี่ทานสดๆจากต้นไม่อั้น

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “เมืองเซนได” เพื่อเข้าสู่ที่พัก

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ HOTEL KEIHAN SENDAI หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “เมืองมัตสึชิมะ” เมืองที่ถือได้ว่าเป็น 1 ใน 3 เมืองที่มีบรรยากาศที่คงความเป็นธรรมชาติไว้มากที่สุด

เพื่อนำท่านเดินทางสู่ “วัดโกไดโดะ (GODAIDO TEMPLE)” เป็นพระอุโบสถขนาดเล็กบนเกาะติดกับท่าเรือมัตสึชิมะ เนื่องจากตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึชิมะ ถูกสร้างขึ้นในปี 807 เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 5 องค์ ซึ่งก่อตั้งโดยพระสงฆ์ที่ก่อตั้งวัดซูอิกันจิ(Zuiganji Temple) โดยรูปปั้นจะถูกนำมาให้ประชาชนได้ชมกันทุกๆ 33 ปี อาคารหลังปัจจุบันนี้ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1604 โดยตระกูลดาเตะ ต้นตระกูลผู้ก่อตั้งและปกครองเมืองเซนไดในยุคแรก ซึ่งล่าสุดเพิ่งเปิดให้ชมเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา การข้ามไปศาลเจ้าจะมีสะพานช่วงสั้นๆ 3 ช่วง สองช่วงก่อนถึงศาลเจ้าเรียกว่า ซึคาชิบาชิ สร้างจากไม้ เว้นช่องระหว่างไม้กระดาน เมื่อเดินข้ามจะมองเห็นพื้นน้ำด้านล่าง มักมีคู่รักมาจูงเมื่อข้ามสะพานเพราะเชื่อว่า จะทำให้สานสัมพันธ์แห่งรักแนบแน่นยิ่งขึ้น

อิสระให้ท่านได้ชมวิว “อ่าวมัตสึชิมะ(MATSUSHIMA BAY)” อ่าวที่ประกอบด้วยเกาะเล็กๆกว่า 200 เกาะที่ปกคลุมด้วยป่าสน สัมผัสความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ระหว่างผืนทะเลกับท้องฟ้าในบรรยากาศตามฤดูกาลทั้ง 4 และยังเป็นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอ่าวที่มีความสวยงามมากที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ใกล้กันนี้มีตลาดที่เปิดตลอดทั้งปี จำหน่ายผลผลิตสด ๆ ที่หาได้จากทะเลในท้องถิ่น ภายในมีร้านอาหารที่จำหน่ายข้าวหน้าปลาดิบ หอยนางรมชุบเกร็ดขนมปังทอด เบอร์เกอร์หอยนางรม ราเม็งหอย ฯลฯ

จากนั้นนำท่านสู่ “เมืองอิจิโนะเซกิ” เพื่อนำท่าน “ล่องเรือหุบเขาเกบิเค (GEIBIKEI)” เป็นสถานที่พักผ่อนทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยเมจิ หุบเขาเกบิเคเป็นเขาหินปูนสูงชัน มีแม่นํ้าซะเท็ทสึ ที่ไหลจากเทือกเขาคุริโคมะผ่านกลางผาหินที่สูงถึง 50 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ผู้คนนิยมมาล่องเรือเลียบไปตามลำนํ้าเพื่อชมความงามของธรรมชาติริมสองฝั่งแม่นํ้า โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงจะมีความสวยงามมากเป็นพิเศษ ระหว่างทางก็จะมีศาลเจ้า น้ำตก ถ้ำ หน้าผา อีกทั้งนายท้ายพายเรือ ขับกล่อมบทเพลงอันไพเราะ สร้างอรรถรสการล่องเรือได้อย่างเพลิดเพลิน ให้ทุกท่านสามารถถ่ายรูปเก็บความประทับใจได้ตลอดในการล่องเรือ และยังมีบริการขายอาหารปลาให้ท่านเพลิดเพลินในการให้อาหารปลาทั้งตัวใหญ่และตัวเล็กในลำน้ำอีกด้วย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งที่ “ถนนคลิสโรด (CLIS ROAD)” ถนนสายช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเซนได แหล่งรวมร้านค้าต่างๆมากมายทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ศูนย์รวมเกมส์ และรวมถึงสินค้าแบรนด์เนมมากมาย และ “ย่านอิจิบันโจ (ICHIBANCHO)” ย่านที่ครอบคลุมการเชื่อมต่อของถนนหลายเส้นทางในย่านดาวน์ทาวน์กินพื้นที่รูปตัว T ตลอดถนนอิจิบันโจ(Ichibancho) และถนนชูโอโดริ (Chuo dori) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุ ประกอบด้วยร้านค้าต่างๆมากมาย และร้านจำหน่ายของที่ระลึกต่างๆ เป็นต้น

จากนั้นนำท่านสู่ “ห้างมิตซุย เอ้าท์เล็ต (MITSUI OUTLET)” ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลก อาทิเช่น Coach, Armani, Ralph Lauren, พร้อมด้วยสินค้าแฟชั่นหญิงชายและเด็ก จนถึงอุปกรณ์กีฬาและสินค้าทั่วไป นอกจากนี้ภายในห้างยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ อิสระทั้งช้อปตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ HOTEL KEIHAN SENDAI หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเปลี่ยนอิริยาบถสู่การ “นั่งกระเช้าภูเขาซาโอะ (MT.ZAO ROPEWAY)” ด้วยความสูง 1,841 เมตร ทำให้สูงเด่นสะดุดตา บวกกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนสักครั้ง สำหรับในช่วงฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมทั่วพื้นที่เป็นสีขาวโพลน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในการมาชมปีศาจหิมะ (Ice Monster) หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าจุเฮียว (Juhyo) หนึ่งในสถานที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่ท่านไม่ควรพลาดถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

นำท่านสนุกสนานบน “ซาโอะ สกีรีสอร์ท (ZAO SKI RESORT)” สนุกสนานกับกิจกรรมฤดูหนาวมากมาย อาทิ สกี สโนว์บอร์ด กระดานเลื่อนหิมะ ฯลฯ หรือเลือกพักผ่อนอิริยาบถกับการนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศลานสกี เลือกซื้อของที่ระลึกหลากหลายเวอร์ชั่น เก็บภาพแห่งความประทับใจกับมุมสวยๆที่มีลานหิมะสีขาวบนภูเขาซาโอะ แหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น (รวมค่าเข้าลานสกีและกระดานเลื่อน SLEDGE ไม่รวมอุปกรณ์สกี)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านสู่ “หมู่บ้านกินซันออนเซ็น (GINZAN ONSEN)” เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงมายาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 20 ตั้งอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่งใน “จังหวัดยามากาตะ” ภูมิภาคโทโฮคุ ในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นเหมืองเงินขนาดใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก แต่หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หมู่บ้านแห่งนี้ก็ผันตัวมาเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่มีเรียวกังเรียงรายเลียบแม่น้ำไปตลอดทาง รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งพักผ่อนชั้นยอดที่ใครๆ ก็อยากไปชมความคลาสสิกของหมู่บ้านออนเซ็นแห่งนี้

รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักที่ MERCURE URABANDAI RESORT&SPA / URABANDAI LAKE RESORT หรือเทียบเท่า
พิเศษ !! สัมผัสการอาบน้ำแร่ แช่ออนเซ็น เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านชมวิว “ทะเลสาบอินะวะชิโระ (LAKE INAWASHIRO)” เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้น้ำมีลักษณะของธาตุที่เป็นกรดจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ใต้น้ำได้ ส่งผลให้น้ำใสจนได้รับขนานนามว่า “ทะเลสาบแห่งกระจกสวรรค์” โดยเฉพาะฤดูหนาวที่เราจะได้เห็นภาพทิวเขาหิมะสลับซับซ้อนปรากฏบนผิวน้ำใส อีกทั้งสามารถพบเห็นฝูงหงส์ได้ตั้งแต่พฤศจิกายน – เมษายนของทุกปี ภาพของฝูงหงส์นับร้อยตัวที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำจึงเป็นภาพที่คุ้นตาของทะเลสาบแห่งนี้

จากนั้นนำท่านสู่ “หมู่บ้านโออุจิ จูกุ (OUCHIJUKU)” หมู่บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะถูกสร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนาๆเรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร มีบ้านโบราณประมาณ 40 - 50 หลัง เมื่อ พ.ศ.2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโออุจิ จูกุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักแบบญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีนักท่องมาเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้กว่า 1.2 ล้านคนต่อปี

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านชม “โตรกผาโทโน เฮทสึริ (TONO HETSURI)” จุดชมวิวในเขตมินะมิไอสุ จังหวัดฟุกุชิมะ เป็นหุบเขาที่อยู่ติดกับแม่น้ำโอะกะวะ ได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติที่มีความสำคัญ ในภาษาพูดท้องถิ่นคำว่า เฮทสึริ หมายถึง “หน้าผา” หินนี้ก่อตัวโดยการกัดเซาะเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ล้านปี และกลายเป็นหอคอย จึงเป็นที่มาของชื่อโทโน เฮทสึริ (หอคอยหน้าผา) ท่านสามารถเที่ยวชมทั้งสองฝั่งได้โดยเดินข้ามสะแพนแขวนที่สร้างไว้พาดผ่าน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “มหานครโตเกียว”

นำท่านสู่ “ย่านชินจูกุ (SHINJUKU)” ย่านแห่งความเจริญอันดับหนึ่งของกรุงโตเกียว ท่านจะได้พบกับ แมวยักษ์ 3 มิติ โลดแล่นบนจอโฆษณา ซึ่งมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร ลำโพงคุณภาพสูง ความละเอียดภาพระดับ 4 เคที่ให้ภาพเสมือนจริงแสดงภาพเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว นับเป็นย่านห้างสรรพสินค้า และร้านขายของเป็นพันๆ ร้าน ซึ่งจะมีผู้คนนับหมื่นเดินกันขวักไขว่ ถือเป็นจุดนัดพบยอดนิยมอีกด้วย เชิญท่านเลือกชมสินค้ามากมาย อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูป, นาฬิกา, เสื้อผ้า, รองเท้าแฟชั่น และเครื่องสำอาง เป็นต้น อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการ “เลือกชมและซื้อ” สินค้าตามอัธยาศัย

อิสระอาหารค่ำ เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาคุ้มค่า (ไม่รวมค่าอาหาร)

พักที่ SUNSHINE CITY PRINCE HOTEL หรือเทียบเท่า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (กรุณาตรวจเช็คสิ่งของและสัมภาระให้เรียบร้อย)

จากนั้นนำท่านสู่ “เมืองคาวาโกเอะ (KAWAGOE)” เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมและกลิ่นอายในสมัยเอโดะ บรรยากาศของเมืองนี้ท่านจะได้พบเห็น บ้านโกดังของพ่อค้าในสมัยก่อนตั้งเรียงราย และโทคิ-โนะ-คาเนะ(หอระฆัง) จะมีเสียงระฆังบอกเวลา คุณจะรู้สึกว่าได้เดินทางย้อนกลับไปในสมัยเอโดะโบราณ ในคาวาโกเอะ คุณจะได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆ และซึมซับความรู้สึกในสมัยเอโดะ

เดินทางต่อกันที่ “ย่านคาชิย่า โยโกโช” (Penny Candy Alley) เป็นตรอกที่มีชื่อเสียงในเมืองคาวาโกเอะ ซึ่งเป็นถนนปูด้วยหินและฝังด้วยแก้วหลากสี และด้วยร้านขายลูกกวาดแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมถึง 22 ร้าน ร้านขายลูกกวาดในตรอกนี้จะส่งต่อรสชาติที่คุ้นเคยและชวนให้นึกถึงความหลังของวันที่ผ่านไป เมื่อใครก็ตามได้ลองย่างก้าวเข้าไปในร้านเหล่านี้ จะรู้สึกว่าตัวเองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง สถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่ทำให้ผู้คนทุกรุ่นตื่นเต้น ทั้งเด็กๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับลูกกวาดแบบดั้งเดิมและผู้ใหญ่ที่อยากรำลึกถึงความหลัง

นำท่านชม “ศาลเจ้าเมจิ (MEIJI SHRINE)” ศาลเจ้าชินโตที่สำคัญของมหานครโตเกียว ได้เคยถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1958 โดยมีเอกลักษณ์เด่นคือซุ้มประตูที่ทำด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (ด้านนอก)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นพาท่านช้อปปิ้ง “ย่านฮาราจูกุ (HARAJUKU)” แหล่งรวมแฟชั่นทันสมัยของวัยรุ่นญี่ปุ่น อิสระกับการช้อปปิ้งยัง “ตรอกทาเคชิตะ” สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านขายของวัยรุ่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า ร้านฟาสท์ฟูดที่วันสุดสัปดาห์จะเป็นแหล่งนัดพบของพวก “แต่งตัวประหลาด” หรือ “ COSPLAY ” มักมาแต่งหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน ร้านเครปญี่ปุ่นอร่อยๆมากมาย ร้าน 100 เยน หรือเลือกช้อปปิ้งแบบสบายๆบนถนน “โอโมเตะซันโด” ด้วยบรรยากาศคล้ายยุโรปกับตึกร้านค้าที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์ยุโรป

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ “อิออนพลาซ่า (AEON MALL)” ศูนย์รวมแห่งสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมญี่ปุ่น ผลไม้ และอาหารนานาชนิดใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าและของฝากได้ตามอัธยาศัย

อิสระอาหารค่ำ เพื่อให้ท่านได้ใช้เวลาคุ้มค่า (ไม่รวมค่าอาหาร)

สมควรแก่เวลาเดินทางสู่ “สนามบินฮาเนดะ” เพื่อเดินทางกลับ

00.20 น. เหินฟ้าสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG 661

05.25 น. เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม